ในปัจจุบันเราสามารถแบ่งงานระบบประปา เป็น 3 ประเภทตามลักษณะพื้นที่อาคาร
ปั๊มน้ำ (Pump) เป็นอุปกรณ์สำหรับเพิ่มแรงดันน้ำ โดยส่วนใหญ่ปั๊มน้ำที่นิยมใช้กันในประเทศไทยมีด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภท
ท่อPVC เป็นท่อที่ทำจากพลาสติกโพลิไวนิลคลอไรด์ ส่วนมากจะใช้กับระบบประปา หรือการเกษตร รวมถึงใช้แทนท่อเหล็กที่เกิดสนิมง่าย แพง ขนาดปกติของท่อPVC จะอยู่1/2 ไปถึง12นิ้ว
ยาว 4 เมตร
แบริ่งสำหรับปั๊มน้ำจะใช้สำหรับใช้รองรับเพลาให้เที่ยงตรงทั้งในแนวรัศมีและแนวแกน ทำหน้าที่ในการถ่วงน้ำหนักระหว่างตัวปั๊มกับมอเตอร์
มอเตอร์ไฟฟ้า คือการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ให้มาเป็นพลังงานกล ด้วยการสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นบนขดลวดทองในสเตอร์ และเหนี่ยวทุนให้หมุน ซึ่งหลังจากนั้นจึงนำพลังงานที่ได้ไปใช้งานต่อไป
Bearing (แบริ่ง) หรือ ตลับลูกปืนเป็นชิ้นส่วนของเพลาเพื่อการรองรับการเคลื่อนที่ เพื่อให้การเคลื่อนที่นั้นทำงานได้ในแนวตรงทั้งแนวแกนและแนวรัศมี
หัวเรือนปั๊มน้ำเป็นอีกหนึ่งอะไหล่ปั๊มน้ำที่สำคัญ ซึ่งในหัวเรือนปั๊มประกอบด้วย Check Value อยู่ภายใน Suction
Mechanical seal คืออุปกรณ์ซีล เพื่อเอาไว้ป้องกันรั่ว โดยทำจากวัสดุหลายชนิดด้วยกัน เพื่อมาประกอบกันเป็นชุด และใช้ในแกนเพลา บริเวณห้องซีล ของอุปกรณ์เพลาหมุนต่างๆ ป้องกันของ
เหลวรั่วซึมออกมา
ระบบรดน้ำต้นไม้แบบสปริงเกอร์เป็นการรดน้ำต้นไม้ ที่ทำการบีบอัด และฉีดน้ำออกมาให้เป็นสาย ซึ่งจะหมุนเหวี่ยงไปโดยบริเวณรอบต้นไม้ ที่ปลูกเอาไว้ ซึ่งเป็นการลดอุณหภูมิสำหรับพื้นที่ตรงนั้นให้มีความเย็นลง
แอร์ชาร์จเจอร์ (Air Charger) คือ ตัวเติมอากาศ เพื่อเติมอากาศและแรงดันน้ำให้แก่ปั๊มน้ำ ซึ่ง Air Charger ทำหน้าที่เติมอากาศหรือเติมลมในแท้งเหล็กของปั๊มถังกลมหรือปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดถังแรงดันนั่นเอง